Scone ขนมคู่โต๊ะชายามบ่ายสไตล์อังกฤษ
หากจะให้พูดถึงหนึ่งในอรรถรสของกิจกรรมการดื่มชายามบ่าย (Afternoon Tea) ของผู้ดีชาวอังกฤษแล้ว หลาย ๆ คนมักนึกถึงภาพของการจิบชาร้อน ๆ คู่กับสโคน (Scone) ขนมอบก้อนกลมที่ส่งกลิ่นหอมเย้ายวนใจ ท่ามกลางสวนดอกไม้สวย ๆ ใช่มั้ยคะ แล้วเพื่อนทราบมั้ยคะว่าขนมสโคนนี้มีประวัติความเป็นมาอย่างไร วันนี้ fatgirlguide จะมาเล่าสู่กันฟังค่ะ
Scone อ่านว่า "สโคน" หรือ "สคอน" นะ ?
อย่าว่าแต่ชาวไทยเลยค่ะ ที่ยังคงสงสัยกันอยู่ว่าจริง ๆ แล้ว ขนมอบชนิดนี้ต้องเรียกว่า "สโคน" หรือ "สคอน" กันแน่นะ เพราะแม้แต่ชาวอังกฤษเอง ก็ยังคงมีการถกเถียงกันอยู่ถึงประเด็นของชื่อขนมชนิดนี้อยู่เรื่อยๆ ถึงขั้นที่ในปี 2016 "YouGov" บริษัทวิจัยการตลาดชื่อดังของอังกฤษ ได้มีการทำโพลสำรวจกลุ่มตัวอย่างในเกรทบริเตนว่า คนส่วนใหญ่เรียกขนมชนิดนี้ว่าอะไรกันแน่ ซึ่งผลที่ออกมา "สคอน" ชนะไปที่ 51%, "สโคน" อยู่ที่ 42%, ไม่รู้ 3% และไม่ได้เรียกทั้งสองแบบ 3% จริงจังกันเบอร์นี้!
ประวัติความเป็นมาของขนม "สโคน"
ความเป็นมาของขนมอบชนิดนี้ก็มีคลุมเครือไม่แพ้ชื่อเรียกเลยค่ะ เพราะจนบัดนี้ก็ยังไม่ชัดเจนว่าใครเป็นผู้ริเริ่มกันแน่ แต่จากหลักฐานบางส่วน สันนิษฐานได้ว่า ขนมสโคนน่าจะมีต้นกำเนิดจากสก็อตแลนด์ ในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 16 ซึ่งสมัยนั้นชาวสก็อตใช้ข้าวโอ๊ตทำสโคนไม่ใช่แป้งสาลีแบบในปัจจุบัน รูปร่างหน้าตาก็แตกต่างจากสมัยนี้ เพราะสโคนยุคแรกเป็นทรงกลมแบน ขนาดใหญ่ประมาณจานขนาดกลาง ถูกนำไปอบบนกระทะก้นแบน (หรือ girdle ของชาวสก๊อต) แล้วจึงนำมาหั่นเป็นชิ้น ๆ ทรงสามเหลี่ยมก่อนเสิร์ฟ ในขณะที่ที่มาของชื่อสโคนนั้นก็มีหลากหลายเรื่องเล่า บ้างก็ว่ามาจากชื่อ Stone of Scone หรือ Stone of Destiny ซึ่งใช้ในพิธีบรมราชาภิเษกกษัตริย์แห่งสก็อตแลนด์ บ้างก็ว่ามาจากภาษาดัชต์ schoonbrot ที่มีความหมายว่า beautiful bread ซึ่งแต่ละคำกล่าวขานนี้ต่างก็เล่ากันไปคนละทางสองทางโดยไม่มีใครรู้ต้นกำเนิดที่แน่ชัด
แม้ว่าชื่อและประวัติจะมีความคลุมเครือยังไงก็ตาม แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนที่สุดคือ ขนมสโคนเป็น Quick Bread คู่บ้านของชาวอังกฤษ ที่เป็นทั้งอาหารเช้าและขนมกินคู่กับชา ลักษณะของขนมจะว่าเป็นขนมปังก็ไม่ใช่ บิสกิตก็ไม่เชิง ให้รสสัมผัสมีความกึ่งกรอบกึ่งนุ่ม เนื้อร่วน มีส่วนประกอบหลักเป็นแป้งสาลี บางครั้งอาจดัดแปลงใส่ลูกเกด ผลไม้แห้ง หรือถั่วเพื่อเพิ่มรสสัมผัสและรสชาติ เนื่องจากสโคนมักมีรสชาติไม่หวานนัก ชาวอังกฤษจึงนิยมรับประทานคู่กับคอตเตตครีม (Clotted Cream) และแยมผลไม้ ซึ่งได้กลายเป็นธรรมเนียมของทั่วโลกไปด้วย ที่เวลาซื้อสโคนก็มักจะได้ครีมและเเยมใส่ถุงมาให้พร้อมสรรพ
"สโคน" มีวิธีการรับประทานอย่างไร ?
วิธีการรับประทานสโคนให้อร่อยนั้น แนะนำให้รับประทานคู่กับครีมและแยม โดยเริ่มต้นจากการนำสโคนมาผ่าครึ่งแบ่งตามแนวนอน ตามรอยแยกของขนม จากนั้นนำครีมมาทาบนสโคน และท็อปปิ้งบนครีมอีกหนึ่งชั้นด้วยแยม เพียงเท่านี้ก็ทำให้เราสามารถลิ้มรสของสโคนได้ดีที่สุด
ถ้าไม่มี Clotted Cream ใช้อะไรทดแทนดีละ ?
วิธีการรับประทานสโคนให้อร่อยและเข้าถึงรสชาติของสโคนได้ดีที่สุดคงจะเป็นการรับประทานคู่กับ Clotted Cream หรือ Fresh Cream แต่ว่าถ้าหาไม่ได้จริง ๆ หรือว่าครีมหมด ก็มีวิธีการกินสโคนให้อร่อยอีกวิธีหนึ่งมาแนะนำค่ะ คือ การรับประทานสโคนรสชาติ Original คู่กับ Whipped Cream (วิปครีม) และแยม ก็จะได้ค่ะ ซึ่งจะได้ความอร่อยไปอีกแบบนึงนะ
สำหรับสโคนรสชาติอื่น ๆ เช่น Cranberry, Matcha, Earl Grey หรือรสชาติอื่น ๆ ก็สามารถทานคู่กับ Whipped Cream ได้เช่นกัน หรือเพื่อน ๆ อาจอุ่นสโคนให้ร้อนแล้วรับประทานเปล่า ๆ โดยไม่ใส่ครีมก็อร่อยไปอีกแบบนะคะ
ส่วนตัว เราชื่นชอบในรสชาติและรสสัมผัสของขนมชนิดนี้มาก ๆ ถือเป็นหนึ่งในสาวกเลยก็ว่าได้ค่ะ ดังนั้นวันนี้เราจะมาแนะนำร้านขายขนมสโคนร้านประจำของเราที่ชอบไปกินบ่อย ๆ หรือเคยลองชิมแล้วติดใจมาฝากเพื่อน ๆ ทุกคนค่ะ มาเริ่มกันที่ร้านแรกเลยยยย
Baker Bricks
เพื่อน ๆ คนไหนที่ชื่นชอบเมนู "สโคน" จะต้องไม่พลาดกับร้านนี้ค่ะ เพราะ Bake Bricks เป็นร้านขนมที่ทำเฉพาะเมนูสโคนเท่านั้น! และทางร้านนำสูตรขนมมาจากร้านสโคนชื่อดังของไต้หวันเลยค่ะ ดังนั้นความพิเศษนอกเหนือจากเนื้อสัมผัสขนมที่ถูกต้องตามแบบฉบับแล้ว ร้านนี้ก็ยังมีสโคนให้เลือกหลากหลายรสชาติและจะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ทุกสัปดาห์อีกด้วยค่ะ โดยราคาของขนมเริ่มต้นที่ชิ้นละ 60 บาทนะ
โดยสโคนรสชาติที่เราชอบของร้านนี้ คือ Original และ Macadamia Nut ค่ะ
ร้านมี 2 สาขา คือ สาขาพร้อมพงษ์และพระราม 9 สามารถซื้อและรับกลับบ้านได้ โดยร้านเปิดทุกวัน จันทร์ - ศุกร์ เวลา 7.00 - 17.00 น. และ เสาร์-อาทิตย์ 9.30 - 17.00 น. นะคะ
Scone'n Me
ร้านสโคนสไตล์อังกฤษโฮมเมด ที่มีจุดเด่นเป็นเนื้อรสชาติตามแบบต้นฉบับบอังกฤษแท้ ๆ เลยค่ะ รังสรรค์มาจากวัตถุดิบคุณภาพ อาทิ เนยแท้จากฝรั่งเศส นำมาผ่านกรรมวิธีสไตล์โฮมเมดที่ใส่ใจทุกขั้นตอนเหมือนอบกินเองเลยค่ะ ซึ่งที่ร้านก็มีสโคนให้เราเลือกหลากหลายรสชาตินะคะ แต่ดาวเด่นของงานต้องยกให้ Classic Scone ค่ะ เป็นสโคนเนื้อร่วน นุ่ม หอมกลิ่นเนย อุ่นร้อน ๆ รับประทานคู่กันกับวิปครีมที่ทางร้านทำเอง ได้รสหวานเบา ๆ จากน้ำตาลไอซิ่ง ความหอมมันจากวิปครีม และรสเปรี้ยวอมหวานจากแยมสตรอว์เบอร์รี่โฮมเมด และอีกเมนูขายดีของทางร้านคือ Earl Grey Scone ที่กลิ่นหอมตลบอบอวนไปด้วยชาเอิร์ลเกรย์รสนุ่ม จากแบรนด์ Twinings ให้กลิ่นรสชาติที่ลงตัวมาก ๆ เลยค่ะ โดยราคาของขนมเริ่มต้นที่ชิ้นละ 40 บาทนะคะ และอีกอย่างร้านนี้ต้องซื้อผ่านช่องทางออนไลน์เท่านั้นน้าาาา!
Facebook: Scone'n Me
Instragram: sconeandme