ใครที่กำลังมองหาท่าออกกำลังกายที่ช่วยเผาผลาญได้เยอะ แถมยังช่วยลดสัดส่วนได้ดีล่ะก็ วันนี้เราก็มีท่าออกกำลังกายที่นอกจากจะช่วยเบิร์นได้ดีแล้ว ยังลดพุงได้ดีอีกด้วย มาให้เพื่อนๆได้ลองทำกันถึง 7 ท่าด้วยกันค่ะ บอกเลยว่า 7 ท่านี้ช่วยเบิร์นแคลอรี่ได้เพียบ ทำที่บ้านได้สบายๆ ไม่ต้องไปยิมให้เสียเวลา ใครที่อยากจะเบิร์นไขมันด้วย ลดพุงย้วยๆ ลดหน้าท้องใหญ่ๆ ด้วยล่ะก็ มาทำ 7 ท่านี้กันด่วนๆ เลยค่าาาาา ว่าแต่จะมีท่าไหนให้ทำตามกันบ้างมาดูกันเลยย
Basic Crunch
เป็นท่าลดหน้าท้องท่าแรกที่ง่ายมากๆ แต่แค่ต้องทำให้ถูกวิธีและถูกจุดแล้วรับรองเลยว่าหน้าท้องของเพื่อนๆจะแบนราบลงแน่ๆ กับท่าที่ชื่อว่า Crunch ท่านี้จะทำให้หน้าท้องของเรากระชับขึ้น ได้หน้าท้องส่วนบน คล้ายๆ กับท่า Sit up แต่ไม่ต้องยกตัวขึ้นสุด คนที่เริ่มออกกำลังกายลดหน้าท้อง ท่านี้ถือเป็นท่าที่ช่วยลดพุงได้ดีเลย เพราะว่าทำไม่ยากและไม่ซับซ้อน เพียงแค่ต้องเกร็งหน้าท้อง อาจจะปวดเมื่อยหน้าท้องในช่วงแรก แต่พอทำไปนานๆ ก็จะสามารถทำได้นานขึ้นและเร็วขึ้นค่ะ
สำหรับวิธีทำนั้นไม่ยากเลยค่ะ เริ่มต้นจากการนอนราบบนแผ่นยางออกกำลังกาย จากนั้นก็ชันเข่าขึ้นและวางมือทั้งสองข้างที่ใบหู เมื่อตั้งท่าเรียบร้อยก็เกร็งหน้าท้องและยกตัวขึ้น แต่ไม่ต้องขึ้นสุด จากนั้นก็ลงและขึ้น ประมาณ 10 ครั้งต่อ 1 เซ็ท
Bicycle Crunch
เป็นอีกหนึ่งท่าที่ช่วยลดและกระชับหน้าท้องได้ดีมากๆ ซึ่งต่อยอดมาจากท่า Crunch แบบธรรมดาๆ แต่ว่าเพิ่มความยากขึ้นมาอีกระดับ โดย ท่านี้จะคล้ายกับการปั่นจักรยานกลางอากาศ ช่วยให้หน้าท้องแบนราบ แถมยังได้กล้ามเนื้อด้านข้างไปเต็มๆ ทำให้หน้าท้องด้านข้างสวยงาม เอวคอดชัดมากขึ้น
โดยวิธีทำจะเริ่มจากการตั้งท่าเหมือนกับท่า Crunch ธรรมดา แต่พอยกตัวขึ้นก็ให้ยกขาขึ้นด้วยเหมือนกับกำลังปั่นจักรยานอยู่กลางอากาศ ซึ่งขาจะสลับกับแขน โดยข้อศอกด้านซ้ายจะมาแตะเข่าด้านขวา ข้อศอกด้านขวาแตะเข่าด้านซ้ายสลับกันไป ผู้ที่เริ่มต้นทำใหม่ๆ อาจจะไม่ต้องแตะถึงเข่าก็ได้ค่ะ เอาแค่เท่าที่ทำได้ก็พอ ไม่ต้องฝืนตัวเองมากจนเกินไป เพราะอาจจะทำให้กล้ามเนื้อเกิดอาการบาดเจ็บได้ค่ะ
Leg Raises
ท่า Leg Raise เป็นท่าลดหน้าท้องที่ได้รับความนิยมมากๆ เนื่องจากเป็นท่าที่จดจำได้ง่ายเพื่อนๆบางคนอาจจะมองว่าทำตามได้ไม่ยาก แต่พอลองทำดูจริงๆแล้วก็เล่นเอาหอบเลยเหมือนกันค่ะ โดยท่านี้จะช่วยลดหน้าท้องส่วนล่างที่ลดได้อย่างยากเย็นสุดๆ โดยปกติเมื่อจะบดหน้าท้องลงมักเป็นหน้าท้องส่วนบนและส่วนกลางที่มักจะลดลงก่อนส่วนที่จะลงก่อน และหน้าท้องส่วนล่างจะลดลงยากที่สุด ซึ่งท่านี้จะทำให้เพื่อนๆลดหน้าท้องส่วนล่างลงได้
โดยวิธีทำนั้นง่ายมากๆ เพียงแค่เพื่อนๆนอนราบกับพื้นจากนั้นก็ค่อยๆชันเข่าขึ้นทั้งสองข้าง จากนั้นจึงยกขาทั้งสองข้างขึ้นเหยียดตรง ปลายเท้าชี้ขึ้นฟ้า ทำมุม 90 องศากับลำตัว หลังจากนั้นก็ค่อยๆ วางขาลงจนเกือบถึงพื้น ห้ามงอเข่า บังคับให้ขาตรง ที่สำคัญห้ามหลังงอเด็ดขาดเพราะอาจจะทำให้ปวดหลังได้ จากนั้นก็ยกขาขึ้นและทำซ้ำประมาณ 10 ครั้งต่อ 1 เซ็ท
Sit Up
Sit-Up เรียกได้ว่าเป็นท่าที่ทำได้ง่ายและสามารถทำได้แทบทุกที่ โดยไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์ก็สามารถทำได้ง่ายๆ แถมยังช่วยลดหน้าท้องได้เป็นอย่างดี ทำให้หน้า ท้องดูดีและแข็งแกร่งมากขึ้น ช่วยช่วยสร้างกล้ามเนื้อส่วนที่เรียกว่ากล้ามเนื้อ Six-pack (ซิก-แพค) ช่วยเสริมความมั่นใจให้เพื่อนๆเป็นอย่างดี จึงเป็นท่าที่นิยมและที่เป็นที่รู้จักมากที่สุด
Sit-Up เป็นการออกกำลังกายที่จะช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อหน้าท้อง แต่บางคนเมื่อซิทอัพมักจะเกิดอาการตึงและเกร็งที่กล้ามเนื้อคอ หรืออาการบาดเจ็บอื่น ๆ ตามมาเนื่องมาจากการ Sit-Up ไม่ถูกวิธี ดั้งนั้นวันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการ Sit-Up ที่ถูกวิธี ซึ่งจะช่วยลดอาการบาดเจ็บที่จะเกิดขึ้น โดยเริ่มจากการนอนหงาย งอเข่าและวางเท้าอย่างมั่นคงบนพื้น เพื่อช่วยให้ร่างกายส่วนล่างมีความมั่นคง จากนั้นให้นำมือขวาแตะไหล่ซ้ายและมือซ้ายแตะไหล่ขวา แขนทั้ง 2 ข้างวางที่หน้าอก หรือนำมือมาแตะไว้หลังใบหู โดยต้องไม่วางมือแต่ให้ดึงช่วงลำคอ แล้วค่อยยกตัวขึ้นโดยงอตัวไปทางเข่า ในขณะที่กำลังยกตัว ให้ค่อย ๆ หายใจออก และควรสังเกตในขณะที่ซิทอัพว่าเป็นช่วงเอวที่งอ ไม่ใช่ช่วงคอ แล้วค่อย ๆ ลดตัวลงกลับสู่ท่าเริ่มต้น และในขณะที่ลดตัวลงให้หายใจเข้า โดยในขณะที่กำลังซิทอัพ ให้เอาเท้ามาเกี่ยวกันไว้ ซึ่งจะทำให้ขาช่วงล่างได้ออกแรงด้วย สำหรับผู้ที่เริ่มต้นควรซิทอัพให้ได้ 10 ครั้ง/1 เซ็ท
Mountain Climber
ท่านี้เป็นการออกกำลังกายแบบ Cardio ความเจ๋งของท่านี้ก็คือ เราไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่มากเลยค่ะสำหรับการเสียเหงื่อ ไม่ต้องวิ่ง เพียงแค่มี space นิดหน่อยก็สามารถเสียเหงื่อได้แล้ว และเชื่อไหมค่ะว่าการออกกำลังกายง่ายๆนี้ทำให้เสียเหงื่อได้ง่ายมากโดยที่เราแทบไม่รู้ตัวเลยค่ะ ซึ่งเราไม่ต้องออกไปวิ่งข้างนอกด้วยซ้ำ การทำ Mountain climbers นั้นช่วยบริหารกล้ามเนื้อส่วนหน้าท้อง แกนกลางลำตัว และต้นขา ที่สำคัญยังเผาผลาญไขมันได้สูงมากๆอีกด้วย
โดยวิธีทำจะเริ่มต้นจากการตั้งท่าเตรียมเหมือนกับการ Push-Up คือเริ่มจากนอนราบจากนั้นเริ่มท่าเข้าหาแพลงค์แต่ยืดแขนให้ตรงค่ะ โดยเราจะใช้แขนเพื่อยึดเป็นหลักเท่านั้น เสร็จแล้วขยับขาสลับไปมา เหมือนกับการวิ่งขึ้นภูเขาด้วยความเร็วโดยที่ไม่ขยับแขน ทำสลับซ้ายขวาจนครบกำหนดเวลา
Flutter Kick
สำหรับท่าต่อไปขอนำเสนอท่า Flutter Kicks เป็นอีกหนึ่งท่าที่ดีมากๆ เลยค่ะ สำหรับหน้าท้องส่วนล่าง โดยท่านี้นอกจากที่คุณจะได้ออกกำลังกายหน้าท้อง ทำให้กล้ามเนื้อหน้าท้องกระชับสวยงามแล้วยังช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้ต้นขา สะโพก และก้นอีกด้วยนะ
แหมดีขนาดนี้ก็วิธีทำก็ไม่ยุ่งยาก แถมยังง่ายดายมากๆเลยค่ะ เริ่มต้นจากการนอนหงายตามปกติ เริ่มต้นด้วยท่าที่คล้าย Crunch ตามปกติค่ะ จากนั้นยกตัวช่วงบนขึ้น แขนแนบกับพื้น ยกช่วงล่างขึ้นด้วย(พยายามใช้ช่วงสะโพก ห้ามใช้มือดัน) แล้วจึงเตะขาสลับซ้ายขวา ไปมาค่ะ ทำตามให้ครบตามระยะเวลาที่กำหนด สำหรับท่านี้ต้องระวังอย่างอหลังในขณะที่ทำ เพราะอาจจะทำให้ปวดหลังได้
Russian Twist
ท่าสุดท้ายนี้ เป็นท่าที่ถือว่าคุ้มมากเพราะทำครั้งเดียวแต่ได้ถึงสอง เพราะถือเป็นการบริหารกล้ามเนื้อทั้งท้องกลางและท้องข้าง ซึ่งนอกจากจะช่วยบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้องเป็นหลัก ยังช่วยในการย่อยอาหาร เสริมสร้างการทำงานของระบบไหลเวียนโลหิต แถมยังช่วยยืดแผ่นหลังและกระดูกสันหลังด้วยนะคะ
วิธีทำท่านี้ก็ง่ายๆดังนี้นะคะ เริ่มจากการนั่งลงกับพื้นพร้อมทั้งชันเข่าขึ้น วางส้นเท้าให้อยู่ห่างจากก้นประมาณ 30 เซนติเมตร จากนั้นให้เอนตัวมาทางด้านหลังเล็กน้อย ระวังอย่าให้หลังโก่งงอ แล้วเหยียดแขนมาด้านหน้าให้เสมอกับอก และวางมือประกบกันโดยให้มือข้างใดข้างหนึ่งอยู่ด้านบน เกร็งกล้ามเนื้อบริเวณสะดือเข้ามา จากนั้นหมุนตัวไปทางด้านซ้ายเราอาจรู้สึกว่าร่างกายขยับได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะการเคลื่อนไหวเกิดขึ้นจากการหมุนตัวของหน้าอกแต่เพียงอย่างเดียว ไม่ได้เกิดจากการเหวี่ยงแขนนะคะ นอกจากนั้น ควรใส่ใจกับการหายใจเข้าออกด้วย โดยระหว่างที่หมุนตัวกลับมาให้สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วจึงหมุนไปทางด้านขวาค่ะ นับเป็น1 รอบค่ะ ทำสลับกันซ้ายขวาเรื่อยๆจนครบเวลาที่กำหนด
เป็นยังไงกันบ้างค่ะ บทความที่เรานำมาฝากวันนี้ หวังว่าจะเป็นประโชน์กับเพื่อนๆทุกคนที่กำลังมองหาข้อมูลอยู่นะคะ ก่อนจะจากกันไปกับบทความนี้ดาวขอย้ำอีกครั้งนึงว่าการออกกำลังกายนั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการดูแลร่างกายซึ่งดาวว่าทุกคนทำได้ค่ะแต่สิ่งที่จะไปตัดสินกันเลยคือ การเลือกรับประทานอาหาร เพราะฉะนั้นใครอ่านบทความนี้จบนอกจากจะออกกำลังกายตามคลิปที่ดาวทำให้แล้วก็อย่าละเลยเรื่องการทานอาหารนะคะ วันนี้ก็ต้องลากันไปก่อน แล้วพบกันใหม่บทความหน้าค่ะ ด้วยรักและสุขภาพดี จากดาว 🙂
